Post by ml on May 15, 2017 12:39:31 GMT
สวัสดีค่ะ
ดิฉันอายุ 30 สามี มีลูก 2 คน ช. ญ. และต้องรับภาระ ดูแล คนป่วย อัมพฤก 1 คน(ลุงเขย) ปัจจะบัน ทำงานรัฐวิสาหกิจ รายได้ พอสมควร แต่มีหนี้สิน และ ภาระทางการเงิน เกินสมควรไปเยอะมาก ช่วงชีวิตที่ผ่านมา จนอายุ 30 ผ่านเรื่องแย่ๆ มาเยอะ มาก จนคิดว่ามันฝังตัวในจิตใต้สำนัก จนทำให้นิสัยดิฉันแย่ตาม ตอนนี้ดิฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ ของตัวเองมา 2 ครั้งแล้ว เมื่อขับรถ กลับบ้าน เมื่อติดไฟแดง อยู่ๆ ก็จำไม่ได้ว่า ที่ๆ เราอยู่คือที่ไหน จึงคิดว่า ควรที่จะเข้ารับการรักษา หรือ บำบัด ก่อนที่ดิฉันจะแย่ไปกว่านี้
ดิฉันนั่งพิจารณาตัวเอง แล้วก็พบว่าตัวเอง มีปัญหาตามนี้ค่ะ
1. ชอบเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองให้คนอื่นฟัง เรื่องราวที่มันรัดทด ที่มันแย่ๆ เพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสาร เหมือนเราจะรู้สึกว่าเราน่าสงสาร แล้วพอคนอื่นสงสารเรา เรารู้สึกดี เหมือนเป็นทางดีที่เราจะสัมผัสความปรารถนาดีจากคนรอบๆ ตัวได้ ขณะตอนที่พิมพ์ ก็ยังอยากเล่าเลยค่ะ
2. ทำอะไรไม่เต็มที่ ไม่สุด ตื่นเต้นแค่ช่วงแรกๆ เมื่อประสบความสำเร็จระดับนึง แล้วก็จะขี้เกียจทำต่อ เลิกเอาเสียดื้อๆ เหมือนทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ดีซักอย่าง
3. ดิฉันเป็นคนเรียนดีมาตั้งแต่เด็กค่ะ แต่กลับรู้สึกกับตัวเองว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไรได้ดีกว่าการเรียนและการสอบ การสอบได้เป็นความภาคภูมิใจเดียวที่มี พอไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้วก็หาความภาคภูมิใจในตัวเองไม่เจอ
4.มักคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินในกลุ่มเพื่อนเสมอค่ะ คิดว่าตัวเองไม่ได้รับการยอมรับ ทำไมคนนั้นมีคนคุยด้วย ทำไมเราไม่มี ทำไมคนนู้นมีคนเล่นด้้วย แต่เราไม่มี เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยย้าย โรงเรียนครั้งแรก เมื่อ ตอน ป.4 และตอนนี้ดิฉันก็ไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว
5. เกลี่ยดการเข้าสังคม เกลียดมนุษย์ ไม่อยากพูดกับใคร ไปไหนถ้าเจอคนรู้จักจะหลบหน้า ไม่อยากให้เขาเห็นไม่อยากทักทาย ไม่มีมนุษย์สัมพันเลย
6. นิสัยก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแก่ยิ่งก้าวร้าว โดยเฉพาะ กับคนที่แก่กว่า หรือ คนที่มีอำนาจกว่าเรา เช่น แม่ หัวหน้า แม้กระทั่ง ลุงเขยที่ดูแลอยู่ บางครั้งถึงขนาดทุบตีแก แล้วก็มานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง แต่กับเพื่อน คนรุ่นเดียวกัน กับเด็กๆ ลูกน้อง จะไม่กล้าว่า กลัวเขาโกรธ
7. ดิฉันจำเรื่องราวดีๆ ในวัยเด็กไม่ได้เลยค่ะ เวลานั่งคุยกับ น้องๆ(ดิฉันเป็นลูกคนโต) จะสนทนาเรื่องอดีต เรื่องสนุกๆ ในวัยเด็ก แล้วนั่งหัวเราะกัน แต่ดิฉันจำไม่ได้เลย ซึ่งจริงๆ เด็กทุกคนต้องมีเรื่องราวน่ารักๆ ตลกๆ ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ดิฉันกลับ จำได้แต่เรื่องแย่ๆ เรื่องที่คิดถึงแล้วรู้สึกหดหู่ ดิฉันอยากกลับไปจำ วันเวลาดีๆ ในวัยเด็กได้บ้าง มันทำให้ดิฉันยิ้มได้ไม่กว้าง หัวเราะได้ไม่สุด
8. ดิฉันรักพ่อ-แม่ ไม่เป็นค่ะ ไม่รู้เลย ว่าลูกรัก พ่อ-แม่ เขารักกันแบบไหน เพราะตั้งแต่จำความได้ ก็อยู่กับ ลุงเขย(คนที่เราดูแลอยู่) และ ป้าแท้ๆ(พี่สาวพ่อแท้ๆ) ที่จริงแล้ว เราก็ควรจะรัก ลุง และ ป้า คู่นี้เหมือน ลูกที่รัก พ่อแม่ แต่แปลก เมื่อป้าดิฉันเสียตอนดิฉันอายุ 16 ปี ดิฉันกลับไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกโล่งแบบบอกไม่ถูก ลุงคนนี้ที่ต้องดูแล ก็ดูแลแบบไม่เต็มใจ และคิดตลอดว่าเขาคือคนอื่นที่มาเป็นภาระให้เรา ส่วนพ่อแม่แท้ๆ นั้น คือพ่อเสียแล้ว ตอนพ่อแท้ๆ เสีย ตอนดิฉันอายุ 18 ก็ไม่เสียนำ้ตาแม้แต่น้อย แต่แม่ยังอยู่ ก็ไม่รู้สึกเลยว่ารัก... ตอนนี้ดิฉันมีลูก ดิฉันก็รักลูกนะคะ แต่พอมองคนอื่น เหมือนเขารักลูกเขา มากกว่าเรารักลูกเรา เราดูเป็นแม่ใจร้าย เป็นนางยักษ์ เหมือนดิฉัน จะไม่มีความรักให้ใครเลย แม้แต่ตัวเอง
ดิฉันอยากกลับมามีความรักอีกครั้งค่ะ อยากรักพ่อ อยากรักแม่ อยากรักลูก อยากรักตัวเอง อยากรักทุกๆคนรอบตัว ดิฉันต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้ง 8 ข้อ โดยเฉพาะข้อสุดท้าย ข้อ 7 ดิฉันอยากเข้าใจความรักที่ลูกมีต่อแม่ ต่อบุพการี ว่ามันซาบซึ่งแค่ไหน ดิฉันอยากมีลูกเพราะอยากรู้ความรู้สึกคนเป็นแม่ แต่ดิฉันก็ไม่รู้ความรู้สึกคนเป็นลูก ดิฉันคิดว่า ถ้าดิฉันกลับมาเป็นคนที่มีความรักเผื่อแผ่ให้กับทุกคนได้ ชีวิตดิฉันคงจะสดใส ไม่แห้งเหือดแบบนี้
ดิฉันศึกษา เกี่ยวกับเรื่อง NLP มาสักระยะนึงแล้ว และพยายาม นำมาปรับใช้กับตัวเอง แต่ไม่ได้ผลค่ะ และคิดว่าอยากบำบัดกับ ดร.ภาคิน ขั้นตอนในการบำบัดเป็นอย่างไรค่ะ เวลาในการบำบัด 40 นาที นี่รวมเวลาในการพูดคุยซักประวัติก่อนบำบัดด้วยหรือป่าวค่ะ หรือไม่จำเป็นที่จะต้องคุยทุกเรื่องที่เจอในชีวิตของดิฉัน
ดิฉันอายุ 30 สามี มีลูก 2 คน ช. ญ. และต้องรับภาระ ดูแล คนป่วย อัมพฤก 1 คน(ลุงเขย) ปัจจะบัน ทำงานรัฐวิสาหกิจ รายได้ พอสมควร แต่มีหนี้สิน และ ภาระทางการเงิน เกินสมควรไปเยอะมาก ช่วงชีวิตที่ผ่านมา จนอายุ 30 ผ่านเรื่องแย่ๆ มาเยอะ มาก จนคิดว่ามันฝังตัวในจิตใต้สำนัก จนทำให้นิสัยดิฉันแย่ตาม ตอนนี้ดิฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ ของตัวเองมา 2 ครั้งแล้ว เมื่อขับรถ กลับบ้าน เมื่อติดไฟแดง อยู่ๆ ก็จำไม่ได้ว่า ที่ๆ เราอยู่คือที่ไหน จึงคิดว่า ควรที่จะเข้ารับการรักษา หรือ บำบัด ก่อนที่ดิฉันจะแย่ไปกว่านี้
ดิฉันนั่งพิจารณาตัวเอง แล้วก็พบว่าตัวเอง มีปัญหาตามนี้ค่ะ
1. ชอบเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองให้คนอื่นฟัง เรื่องราวที่มันรัดทด ที่มันแย่ๆ เพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสาร เหมือนเราจะรู้สึกว่าเราน่าสงสาร แล้วพอคนอื่นสงสารเรา เรารู้สึกดี เหมือนเป็นทางดีที่เราจะสัมผัสความปรารถนาดีจากคนรอบๆ ตัวได้ ขณะตอนที่พิมพ์ ก็ยังอยากเล่าเลยค่ะ
2. ทำอะไรไม่เต็มที่ ไม่สุด ตื่นเต้นแค่ช่วงแรกๆ เมื่อประสบความสำเร็จระดับนึง แล้วก็จะขี้เกียจทำต่อ เลิกเอาเสียดื้อๆ เหมือนทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ดีซักอย่าง
3. ดิฉันเป็นคนเรียนดีมาตั้งแต่เด็กค่ะ แต่กลับรู้สึกกับตัวเองว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไรได้ดีกว่าการเรียนและการสอบ การสอบได้เป็นความภาคภูมิใจเดียวที่มี พอไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้วก็หาความภาคภูมิใจในตัวเองไม่เจอ
4.มักคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินในกลุ่มเพื่อนเสมอค่ะ คิดว่าตัวเองไม่ได้รับการยอมรับ ทำไมคนนั้นมีคนคุยด้วย ทำไมเราไม่มี ทำไมคนนู้นมีคนเล่นด้้วย แต่เราไม่มี เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยย้าย โรงเรียนครั้งแรก เมื่อ ตอน ป.4 และตอนนี้ดิฉันก็ไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว
5. เกลี่ยดการเข้าสังคม เกลียดมนุษย์ ไม่อยากพูดกับใคร ไปไหนถ้าเจอคนรู้จักจะหลบหน้า ไม่อยากให้เขาเห็นไม่อยากทักทาย ไม่มีมนุษย์สัมพันเลย
6. นิสัยก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแก่ยิ่งก้าวร้าว โดยเฉพาะ กับคนที่แก่กว่า หรือ คนที่มีอำนาจกว่าเรา เช่น แม่ หัวหน้า แม้กระทั่ง ลุงเขยที่ดูแลอยู่ บางครั้งถึงขนาดทุบตีแก แล้วก็มานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง แต่กับเพื่อน คนรุ่นเดียวกัน กับเด็กๆ ลูกน้อง จะไม่กล้าว่า กลัวเขาโกรธ
7. ดิฉันจำเรื่องราวดีๆ ในวัยเด็กไม่ได้เลยค่ะ เวลานั่งคุยกับ น้องๆ(ดิฉันเป็นลูกคนโต) จะสนทนาเรื่องอดีต เรื่องสนุกๆ ในวัยเด็ก แล้วนั่งหัวเราะกัน แต่ดิฉันจำไม่ได้เลย ซึ่งจริงๆ เด็กทุกคนต้องมีเรื่องราวน่ารักๆ ตลกๆ ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ดิฉันกลับ จำได้แต่เรื่องแย่ๆ เรื่องที่คิดถึงแล้วรู้สึกหดหู่ ดิฉันอยากกลับไปจำ วันเวลาดีๆ ในวัยเด็กได้บ้าง มันทำให้ดิฉันยิ้มได้ไม่กว้าง หัวเราะได้ไม่สุด
8. ดิฉันรักพ่อ-แม่ ไม่เป็นค่ะ ไม่รู้เลย ว่าลูกรัก พ่อ-แม่ เขารักกันแบบไหน เพราะตั้งแต่จำความได้ ก็อยู่กับ ลุงเขย(คนที่เราดูแลอยู่) และ ป้าแท้ๆ(พี่สาวพ่อแท้ๆ) ที่จริงแล้ว เราก็ควรจะรัก ลุง และ ป้า คู่นี้เหมือน ลูกที่รัก พ่อแม่ แต่แปลก เมื่อป้าดิฉันเสียตอนดิฉันอายุ 16 ปี ดิฉันกลับไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกโล่งแบบบอกไม่ถูก ลุงคนนี้ที่ต้องดูแล ก็ดูแลแบบไม่เต็มใจ และคิดตลอดว่าเขาคือคนอื่นที่มาเป็นภาระให้เรา ส่วนพ่อแม่แท้ๆ นั้น คือพ่อเสียแล้ว ตอนพ่อแท้ๆ เสีย ตอนดิฉันอายุ 18 ก็ไม่เสียนำ้ตาแม้แต่น้อย แต่แม่ยังอยู่ ก็ไม่รู้สึกเลยว่ารัก... ตอนนี้ดิฉันมีลูก ดิฉันก็รักลูกนะคะ แต่พอมองคนอื่น เหมือนเขารักลูกเขา มากกว่าเรารักลูกเรา เราดูเป็นแม่ใจร้าย เป็นนางยักษ์ เหมือนดิฉัน จะไม่มีความรักให้ใครเลย แม้แต่ตัวเอง
ดิฉันอยากกลับมามีความรักอีกครั้งค่ะ อยากรักพ่อ อยากรักแม่ อยากรักลูก อยากรักตัวเอง อยากรักทุกๆคนรอบตัว ดิฉันต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้ง 8 ข้อ โดยเฉพาะข้อสุดท้าย ข้อ 7 ดิฉันอยากเข้าใจความรักที่ลูกมีต่อแม่ ต่อบุพการี ว่ามันซาบซึ่งแค่ไหน ดิฉันอยากมีลูกเพราะอยากรู้ความรู้สึกคนเป็นแม่ แต่ดิฉันก็ไม่รู้ความรู้สึกคนเป็นลูก ดิฉันคิดว่า ถ้าดิฉันกลับมาเป็นคนที่มีความรักเผื่อแผ่ให้กับทุกคนได้ ชีวิตดิฉันคงจะสดใส ไม่แห้งเหือดแบบนี้
ดิฉันศึกษา เกี่ยวกับเรื่อง NLP มาสักระยะนึงแล้ว และพยายาม นำมาปรับใช้กับตัวเอง แต่ไม่ได้ผลค่ะ และคิดว่าอยากบำบัดกับ ดร.ภาคิน ขั้นตอนในการบำบัดเป็นอย่างไรค่ะ เวลาในการบำบัด 40 นาที นี่รวมเวลาในการพูดคุยซักประวัติก่อนบำบัดด้วยหรือป่าวค่ะ หรือไม่จำเป็นที่จะต้องคุยทุกเรื่องที่เจอในชีวิตของดิฉัน